สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินวัดภูริทัตตถิราวาส

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงไปประกอบพิธีพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วัดภูริทัตตถิราวาส

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงไปประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และยกฉัตรพระบรมสารีริกธาตุ พระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วัดภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร

วันศุกร์ที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐ เวลา ๑๕.๕๕ น.

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเสด็จพระราชดำเนินยัง วัดภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร ในเวลา ๑๕.๕๕ น. เพื่อประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และยกฉัตรพระบรมสารีริกธาตุ ภายในพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
พิธีเริ่มต้น ทรงเสด็จเข้าสู่พลับพลาพิธี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานฝ่ายบรรพชิตถวายศีล นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการฝ่ายจัดงาน กราบบังคมทูลประวัติและความเป็นมาในการจัดสร้างพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์ฯ โดยมีพระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เป็นประธานผู้จัดสร้าง และความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ ๘๐องค์ ที่ได้รับการถวายจากพระมหานายกเถระ ผู้ทรงจำพระไตรปิฎกหนึ่งในเก้าองค์ แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เพื่อบรรจุบนสถานที่ตั้งภายในพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จทรงประกอบพิธีสรงพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
เมื่อกล่าวถวายบังคมทูลเสร็จแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงประกอบพิธีสรงและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
โดยพระบรมสารีริกธาตุชุดที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสรงและบรรจุในพระกรัณฑ์ เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับการถวายมาจากวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร โดยสมเด็จพระวันรัต เป็นผู้ถวาย ในส่วนของอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระธรรมมงคลญาณ เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร และประธานคณะสงฆ์ธรรมยุตแห่งประเทศแคนาดาเป็นผู้ถวาย
เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสรงพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น บรรจุลงพระกรัณฑ์แล้วเสร็จ พระราชทานคืนเจ้าพนักงานพระราชพิธี เพื่ออัญเชิญไปยังประดิษฐานภายในพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์
เจ้าพนักงานพระราชพิธีได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานบนบุษบก และได้อัญเชิญอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ไปยังแท่นหน้ารูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมฉัตร ทรงถือสายสูตรอัญเชิญฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระบรมสารีริกธาตุ
(ขณะที่ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น และทรงอัญเชิญฉัตรขึ้นเหนือพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นเหนือบุษบกภายในยอดพระมหาเจดีย์ พระสงฆ์ราชาคณะเจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานราชพิธีลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์)
ทรงบรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่มั่นฯ เข้าใต้รูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ทรงทอดผ้าไตรที่หน้าอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะบูชาอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น
แล้วทอดพระเนตรภายในเจดีย์พิพิธภัณฑ์ฯ มีภาพวาดจากความทรงจำของพระธรรมมงคลญาณ พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เป็นภาพวาดประวัติเรื่องราวเมื่อสมัยครั้งที่พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์อุปัฏฐากพระอาจารย์หลวงปู่มั่นฯ รวมถึงภาพวาดปริศนาธรรม
ทรงนมัสการพระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร ผู้เป็นประธานในการจัดสร้างพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร อยู่ชั่วขณะ พระธรรมมงคลญาณ ได้ถวายรูปเหมือนหลวงปู่มั่น หนังสือประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหนังสือพระธรรมคำสอน เป็นที่ระลึก
เสด็จออกจากเจดีย์พิพิธภัณฑ์เพื่อทรงปลูกต้นรวงผึ้ง ซึ่งเป็นพรรณไม้ประจำรัชกาลที่ ๑๐
เสด็จกลับพลับพลาพิธี
ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์จำนวน ๑๐ รูป
กลับเข้าสู่พระราชอาสน์ พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาในการสร้างพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำนวน ๑๑๐ คนตามลำดับ มีประธานฝ่ายฆราวาส ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้รับพระราชทานเป็นอันดับแรก
ต่อจากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาสงฆ์
เสด็จฯ ออกจากพลับพลาพิธี
ทรงเยี่ยมราษฏรที่มารอรับเสด็จ
สมควรแก่เวลา เสด็จขึ้นรถยนต์พระที่นั่งออกจากวัดป่าภูริทัตตถิราวาส
ต่อจากนั้น พระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เดินลงมาจากพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์ เพื่อขอบคุณคณะสงฆ์ราชาคณะที่มาร่วมงาน และได้เดินไปส่งสมเด็จพระสังฆราช ขณะขึ้นรถยนต์พระที่นั่ง บริเวณหน้าวัด พร้อมท่านนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยได้มีการสนทนาขอบคุณซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด
หลังจากนั้น ท่านนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นรถเลื่อนไฟฟ้า พร้อมกับ พระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เพื่อส่งพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์กลับกุฏิ จึงได้กราบลาไปทำภารกิจบ้านเมืองต่อไป
วัดภูริทัตตถิราวาสหรือวัดป่าบ้านหนองผือ เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งในสายวัดป่ากรรมฐาน เริ่มแรกพระอาจารย์หลุย จนฺทสาโร ได้ธุดงค์หาที่วิเวก และมีดำริที่จะสร้างที่พักสงฆ์ชั่วคราวขึ้น ทำให้พระสงฆ์ สามเณร ธุดงค์สัญจรมาอย่างไม่ขาดสายจึงพัฒนาเป็นวัดอย่างสมบูรณ์ เริ่มแรกใช้ชื่อว่า “วัดสันติวนาราม” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดภูริทัตตถิราวาส” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี ๒๕๒๖ ปัจจุบัน มีพระอธิการพยุง ชวนปญฺโญ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ และสามเณร จำพรรษา ๒๔ รูป
สำหรับผู้มาร่วมงานมีความประทับใจปลื้มปิติมากล้น คนนับหมื่นร่วมชมปาฏิหาริย์ฟ้าดินขณะประกอบพิธีการยกฉัตรขึ้นเหนือพระบรมสารีริกธาตุ นับเป็นวันที่ร้อนมาก เนื่องจากวันที่ประกอบพิธียกฉัตรเป็นหน้าร้อนเดือนเมษายน ช่วงก่อนหน้าฤดูสงกรานต์เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่ลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่นไม่ได้มีความย่อท้อ แห่แหนมาร่วมพิธีจากทุกสารทิศ มากันมากมายหลายหมื่นคน จนรถราจอดเต็มทุ่งนา ที่ต้องจอดรถห่างจากวัดเดินเข้ามาเป็นกิโลก็มี ผู้คนเบียดเสียดแน่นขนัด แต่มองไปทางไหนก็มีแต่ผู้คนยินดีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จะว่าหลายต่อหลายคนรอวันนี้มานานก็ย่อมได้
นับจากที่พระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้ประกาศว่าจะมาช่วยวัดป่าบ้านหนองผือ ต้องการจะสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ถวายเป็นอาจาริยบูชา เพื่อเป็นศูนย์รวมประกาศคำสอนวิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่มั่นฯ จัดพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อ วันที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยตั้งใจจะสร้างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี ๒๕๕๙ เพื่อทำพิธียกฉัตร แต่แล้วกำหนดการก็ได้ถูกเลื่อนออกไป จนถึงเวลาอันสมควรแล้วจึงจะทำพิธี
โดยมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาที่จังหวัดสกลนคร เพื่อประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและอัฐิธาตุหลวงปู่มั่นฯ ทรงอัญเชิญฉัตรขึ้นเหนือพระบรมสารีริกธาตุ ภายในเจดีย์พิพิธภัณฑ์ฯ
นับเป็นการประกอบพิธีอัญเชิญฉัตรขึ้นประดิษฐานเป็นเจดีย์แรกของรัชกาลที่ ๑๐ และเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฏรอย่างเป็นทางการ เป็นจังหวัดที่สอง คือ จังหวัดสกลนคร (ทรงเยี่ยมราษฏรที่จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดแรก)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จถึงวัดป่าภูริทัตตถิราวาสก่อนกำหนดการประมาณหนึ่งชั่วโมง ช่วงนั้นเป็นเวลาใกล้สี่โมงเย็น ฟ้าใสแดดแรงมีเมฆบ้างเล็กน้อย เมื่อพระราชพิธีดำเนินไปถึงช่วงสำคัญ ขณะที่พระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่ายฉัตร ทรงเจิมฉัตร ถือสายสูตรอัญเชิญฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระบรมสารีริกธาตุ ขณะนั้นสมเด็จพระสังฆราชและพระราชาคณะ รวม ๑๐ รูป เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าหน้าที่พระราชพิธี ประโคมแตร สังข์ ฆ้อง ก้องกังวาน
เมื่อฉัตรถูกอัญเชิญขึ้นสู่เหนือพระบรมสารีริกธาตุ เสียงพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาจบลง เสียงปี่ฆ้องแตรหยุดบรรเลง ฉับพลัน แสงแดดร้อนแรงที่สร้างความร้อนระอุมาตลอดทั้งวันก็ผ่อนคลาย
เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอัญเชิญฉัตรขึ้นเหนือพระบรมสารีริกธาตุ ฟ้าดินก็เกิดปาฏิหาริย์ มีเมฆมาบังแสงดับความร้อน อากาศที่ร้อนอยู่ก็ทุเลาสลับเป็นลมเย็นโบกสะบัดคล้ายลมฝน ฟ้าร้องกึกก้องกังวาน มีละอองเม็ดฝนดั่งน้ำพระพุทธมนต์เจืออยู่ในอากาศเพียงประปราย ลมโหมกระหน่ำจนไม้โยกโบกสะบัดสร้างความอัศจรรย์ปาฏิหาริย์ ดอกไม้ลูกยางลอยล่องปลิวไสวไปทั่วบริเวณรอบเจดีย์ ดั่งเทพยดานางฟ้ามาโปรยบุปผามาลาเหนือวิมานบนสรวงสวรรค์ จนเกิดความประหลาดใจ สร้างความรู้สึกปลื้มปิติแก่ผู้คนโดยรอบบริเวณพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ผู้คนไม่น้อยน้ำตาไหลซึม เกิดความอิ่มเอิบหัวใจคับพอง ขนลุกซู่ พสกนิกรที่มารับเสด็จต่างชื่นชมพระบารมี จนทำให้นึกถึงคำว่า เย็นศิระเพราะพระบริบาล ความร่มเย็นมาปกคลุมโดยรอบบริเวณพิธี
พระอาจารย์เสริมพร ธัมมวโร พระอุปัฏฐาก พระธรรมมงคลญาณ
ได้กล่าวถึงบทสนทนาธรรมบางส่วน ในขณะที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิสันถารกับพระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ทรงกล่าวว่า พระองค์ทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนาและทรงสนพระทัยในธรรมะ ตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

CAMERA

ขอบคุณที่มา :: http://samathi.com/2016/activity-detail.php?actid=947